พลังงาน ถือเป็นสิ่งที่มีค่าและมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวันของเราทุกคนไม่ว่าจะเป็นพลังงานน้ำ พลังงานน้ำมัน พลังงานไฟฟ้า ซึ่งความต้องการใช้พลังงานมีอัตราที่เพิ่มมากขึ้นทุก ๆ ปี ในขณะที่พลังงานต่าง ๆ มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้น วิธีการประหยัดพลังงานซึ่งทำได้ทุกแห่งไม่ว่าจะในบ้าน ในรถยนต์ ในโรงเรียน และในสถานที่ทำงาน แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรถึงจะช่วยกันประหยัดพลังงานของชาติให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ของทุกคนได้ ต่อไปนี้เป็นคำตอบถึงวิธีการประหยัดพลังงานอย่างง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถทำได้
บ้านประหยัดพลังงานของเมืองไทย ที่เจ้าของบ้านทั่วไปสามารถจะก่อสร้างเพื่ออยู่อาศัยได้ กำลังจะพัฒนาขึ้นไปอีกระดับ จากเดิมเมื่อสักประมาณ 15 -20 ปีก่อน ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 แนวทาง คือ บ้านที่ใช้พลังงานไฟฟ้าน้อยที่สุด หรือไม่ใช้พลังงานเลย อีกแนวทางที่พัฒนาขึ้นไปก็คือ บ้านที่ใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ หรือใช้แล้วใช้ให้คุ้มค่า และเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาจนมีราคาที่ไม่แพงเกินไปและรัฐให้การส่งเสริมสนับสนุน โดยเฉพาะระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์
แต่เมื่อสภาพแวดล้อมบางพื้นที่เปลี่ยนไป เช่น พื้นที่ในเมือง มีแต่ตึกแออัด ไม่มีที่โล่งและต้นไม้มีแต่ถนน การจะเปิดบ้านให้โล่งเพื่อรับลมก็จะเกิดปัญหาเพราะมีแต่ฝุ่นและควันรถ เป็นผลให้จำเป็นต้องปิดหน้าต่างแล้วเปิดแอร์เพื่อปรับอากาศที่ต้องใช้พลังงาน ดังนั้นบ้านจึงต้องออกแบบให้มีการรั่วซึมของอากาศน้อย ใช้วัสดุที่ช่วยป้องกันความร้อนไม่ให้เข้าสู่ภายในบ้าน เช่น ใช้ฉนวนกันความร้อนมาเสริม หรือใช้กระจกที่มีสมบัติป้องกันความร้อนได้ดี เพื่อให้การใช้พลังงาน (ในการปรับอากาศ) มีประสิทธิภาพ แนวทางนี้ภาษาวิชาการเรียกว่าเป็นบ้านแบบ แอคทีฟซิสเต็ม (Active System) อย่างไรก็ตาม บ้านในแนวทางนี้ก็ยังต้องออกแบบวางตัวบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางแดดลม เพราะหากบ้านหลังใดออกแบบไม่ดี หันทิศทางไม่ถูกต้อง ปล่อยให้แดดส่องเข้ามาภายในบ้านเกิดเป็นความร้อนสะสมกักเก็บไว้ภายใน ผลก็คือร้อน และยิ่งร้อนมากขึ้นหากติดฉนวนทั้งบ้านโดยที่ไม่ได้รับการออกแบบที่ดี เพราะฉนวนกันความร้อนที่เราหวังจะให้กันความร้อนเข้า ก็จะกลายเป็นตัวกันไม่ให้ความร้อนระบายออก เมื่อเปิดแอร์ก็จะสิ้นเปลืองทั้งพลังงานและค่าไฟ
สองแนวทางแรกนี่เป็นแนวทางพื้นฐานที่ต้องคำนึงถึงและนำไปใช้ในบ้านทุกหลัง บ้านประหยัดพลังงานที่ผ่านมาส่วนใหญ่ก็เป็นการประยุกต์ใช้สองแนวทางข้างต้นผสมผสานกันนั่นเอง

ปัจจุบันเครื่องใช้ไฟฟ้าประหยัดพลังงานเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้กระแสไฟฟ้าน้อยที่มีประสิทธิภาพสูง เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆกินไฟแม้ขณะที่เราปิดเครื่อง สำหรับ ทีวี เครื่องเล่นและบันทึกวิดีโอ เครื่องรับส่งเอกสาร เครื่องเสียงระบบไฮไฟ จอคอมพิวเตอร์ กล่องเคเบิล และอุปกรณ์เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตทางสายโทรศัพท์ เหล่านี้มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 40-120 กิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี รวมความสูญเสียในครัวเรือนทั้งสิ้นอาจมากถึงหลายร้อยกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี ทั้งหมดนี้นับเป็นความสูญเปล่าโดยไม่เกิดประโยชน์อันใด ทางออกที่ดีที่สุดคือซื้อเครื่องใช้ที่กินไฟในการใช้พลังงานสำรองต่ำมากๆ การใช้พลังงานสำรองมีบอกไว้ในคู่มือการใช้ผลิตภัณฑ์และสามารถตรวจสอบได้ก่อนซื้อ
บ้าน คือที่พักอาศัยของเรา เป็นปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ แต่ปัจจุบันหลายบ้านได้ถูกสร้าง โดยลืมถึงสภาพภูมิอากาศที่ตั้ง เพราะทำเลพื้นที่ไม่อำนวย การใช้วัสดุที่ไม่เหมาะสม ทำให้ต้อง ปรับอากาศภายในบ้าน ซึ่งเป็นการสิ้นเปลืองและทำให้ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น หนทางที่จะลดการใช้ พลังงานคือการปรับเปลี่ยน วิถีชีวิต พฤติกรรม และใช้พลังงานให้คุ้มค่าที่สุด



พลังงานเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เยอะก็จริง แต่ถ้าเราไม่รู้จักใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างสูงสุด สักวันหนึ่งพลังงานที่เอื้ออำนวยให้เราได้รับความสะดวกสบายทุกวันนี้ ก็มีโอกาสที่จะหมดไปจากโลกเราได้ง่าย ๆ เหมือนกัน ซึ่งปัญหาแหล่งทรัพยากรลดลงอย่างต่อเนื่อง ก็เป็นประเด็นที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจไม่น้อย และหากคุณเองก็เป็นหนึ่งคนที่อยากจะประหยัดพลังงานกับเขาบ้าง ก็เริ่มได้ง่าย ๆ จากบ้านของเราเอง ซึ่งนอกจากจะได้ช่วยลดโลกร้อนแล้ว ยังส่งผลโดยตรงกับรายจ่ายประจำบ้าน ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้อีกเยอะอย่างไม่น่าเชื่อเลยล่ะ ลองไปดูวิธีประหยัดพลังงานในบ้านกันนะคะ




